สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com

งานซ่อมประปาสุขาภิบาลไม่ยากอย่างที่คิด

งานซ่อมประปาสุขาภิบาลไม่ยากอย่างที่คิด

การจัดการความรู้

กองงานโยธา กรมช่างโยธาทหารเรือ

เรื่อง งานซ่อมประปา-สุขาภิบาลไม่ยากอย่างที่คิด

 

      

 

                                                                                                                                                                                             

                                                                                                                                       โดย หมวดงานประปาและสุขาภิบาล

คำนำ

 

เอกสารชุดจัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขงานประปาและสุขาภิบาล(เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความรู้ กงย.ชย.ทร.)หมวดงานประปาและสุขาภิบาล แผนกงานซ่อมสร้าง กงย.ชย.ทร.ได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆและประสบการณ์ของผู้ปฎิบัติงานมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ผู้สนใจได้อ่าน หวังว่าคงจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย และขอเชิญชวนทุกท่านที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานประปาฯเข้าร่วมถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันอย่าเก็บความรู้ไว้กับตัวเอง เราจะร่วมพัฒนาหน่วยงานและเรียนรู้เทคนิคการจัดการความรู้ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนางานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขอบคุณ ข้อมูลจาก http://www.baanlaesuan.com/index.aspx

http://www.thaihomemaster.com/showinformation.php?TYPE=15&ID=1080

หมวดงานประปาและสุขาภิบาล

กงย.ชย.ทร.

พ.จ.อ.ประทีป แก้วภมร

น.ต.นิพนธ์ ทองอ่อน

ผู้รวบรวมและจัดทำ

สิงหาคม ๒๕๕๔

 

 

    เรื่อง :: แก้ไขงานประปาและสุขาภิบาล(กยธ.ชย.ทร.)

ความรู้งานด้านช่างประปาฯและเทคนิคงานช่างการแก้ปัญหาต่างของระบบงานสุขาภิบาล

                  การต่อท่อ พีวีซี ใหม่สามารถทำได้2วิธี
-กรณีที่เคลื่อนย้ายท่อได้ให้ตัดเอาส่วนที่ชำรุดออกแล้วใช้ข่อต่อตรงทากาวหรือน้ำยาเชื่อมท่อทิ้งไว้ให้แห้ง
-ไม่สามารถขยับเขยือนท่อได้ เนื่องจากพื้นที่จำกัดสามารถซ่อมแซมได้โดยการใช้ข้อต่อยูเนี่ยน

การท่อ พีวีซี ใหม่สามารถทำได้2วิธี(เพิ่มเติม)
-กรณีที่เคลื่อนย้ายท่อได้ให้ตัดเอาส่วนที่ชำรุดออกแล้วใช้ข่อต่อตรงทากาวหรือน้ำยาเชื่อมท่อทิ้งไว้ให้แห้ง
-ไม่สามารถขยับเขยือนท่อได้ เนื่องจากพื้นที่จำกัดสามารถซ่อมแซมได้โดยการใช้ข้อต่อจีโบว์

ปัญหาและการแก้ไขฝักบัว(Shower) ในกรณีที่น้ำจากฝักบัวไหลไม่แรงเหมือนก่อนแม้ว่าแรงดันน้ำปกติก็ตาม สาเหตุหนึ่งก็คือการอุดตันของบริเวณทางน้ำออก อันเนื่องมาจากตะกอนต่างๆที่มากับน้ำสะสมตัวกัน วิธีแก้ไข 1ใช้ไขควงชนิดขันสกูรที่ยึดฝาฝักบัวออก 2 นำเอาฝาฝักบัวที่ถอดแล้วแช่น้ำยาขัดพื้นหรือน้ำยากัดสนิมเพื่อทำความสะอาด 3 สังเกตุดูยางรอบฝักบัวมีการชำรุดหรือไม่ หากชำรุดให้เปลี่ยนใหม่ 4 ทำความสะอาดฝักบัวล้างแผ่นปิดฝาฝักบัวใช้เข็มหรือแปรงสีฟันมาแทงหรือขัดรูฝักบัว เพื่อให้ตะกอนหลุดออกไป เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยให้ใช้ซิลิโคนทาทีรอบยางของฝักบัว เพื่อว่ายางจะได้ไม่แข็งตัวและเสื่อมสภาพ ในกรณีที่ตะแกรงกะจายน้ำซึ่งเป็นโลหะมีการบิดเป็นเกียวก็ให้ใช้ค้อนทุบเบาๆ ใส่อุปกรณ์ต่างๆเข้าสู่สภาพเดิม แล้วลองเปิดน้ำทดสอบ

ปัญหาต่อมาคือ น้ำไหลจากฝักบัวแม้ว่าจะมีการปิดวาล์วน้ำแล้วก็ตาม ปัญหานี้ก็มีสาเหตุมาจากตัววาล์วเปิด-ปิดชำรุดเสียหายให้เปลี่ยนแหวนยางและยางOringใหม่

กลิ่นย้อนกลับทางท่อระบายน้ำ กลิ่นที่ย้อนกลับมาทางช่องระบาย ซึ่งเกิดไม่ใช้ท่อดักกลิ่น ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ไม่อำนวยให้ติดตั้ง การแก้ปัญหา ก็ให้ใช้ถ้วยดักกลิ่นที่เรียก Floor Drain สำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีเนื้อที่น้อย ไม่สามารถติดตั้ง P-

Trapได้

 

ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นของอ่างล้างจาน

ก็เป็นปัญหาเดียวกับอ่างทั่วๆไป นั่นคืออุดตันที่ท่อระบายน้ำทิ้ง อันเนื่องมาจากเศษอาหารและคราบไขมันจากอาหาร การซ่อมแซมที่พอจะทำได้ก็คือทำความสะอาดท่อระบายน้ำโดยการใช้สารเคมีที่กำจัดการอุดตัน ช่วยย่อยสลายเศษอาหารต่างๆ การใช้น้ำร้อนเทลงไปที่ท่อระบายเพื่อละลายไขมันที่จับผนังท่อออก การถอดท่อออกทำความสะอาด หากแก้ปัญหาแล้วยังไม่ได้ผล ก็ต้องพึงพาอุปกรณ์ที่เรียกว่า"งูเหล็ก"ซึ่งมีลักษณะเป็นลวดยาวที่ปลายด้านหนึ่งมีขอเกี่ยวสอดเข้าไปทะลวงเส้นท่อ

หมวดช่างประปาและสุขาภิบาล

 กองงานโยธา ชย.ทร.ยินดีให้คำปรึกษางานระบบประปาและสุขาภิบาล 4754106(ในเวลาราชการ)

 

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับระบบประปา ในชีวิตประจำวันของเรานั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับเครื่องไม้เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์หลายประเภทด้วยกัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วยทุ่นแรงในการประกอบกิจการต่างๆที่จำเป็นแทนมนุษย์ สำหรับอุปกรณ์ภายในบ้านที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน และมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบประปาประกอบไปด้วย"เครื่องสูบน้ำ""เครื่องทำน้ำอุ่น""เครื่องซักผ้า""เครื่องกรองน้ำ"

ท่อประปา

 เป็นอุปกรณ์สำหรับนำน้ำจากแหล่งน้ำไปยังจุดต่างๆ ตามที่ต้องการใช้ หรือนำน้ำโสโครกออกไปจากบ้านเรือน ท่อประปาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ท่อโลหะและท่อพลาสติก
ท่อโลหะ ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี ทำด้วยเหล็กเคลือบผิวด้วยดีบุกหรือสังกะสี สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดี แข็งแรง ทนทาน ในการติดตั้งใช้ข้อต่อชนิดเกลียว และเทปพันเกลียวเพื่อช่วยป้องกันการรั่วของเกลียวบริเวณรอยต่อ
ข้อดี มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ทนทานต่อแรง กระแทกได้ ไม่หักงอ ทนต่อความดันและอุณหภูมิที่สูงๆ เช่นเครื่องทำน้ำร้อน
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างแพง ถ้าใช้นานๆ อาจเกิดสนิม ได้โดยเฉพาะที่ฝังอยู่ในดิน อาจเป็นอันตราย ถ้านำน้ำในท่อมาดื่ม


ท่อประปา พีวีซี (PVC) เป็นวัสดุสังเคราะห์นิยมใช้กันมากในงานประปา เพราะราคาถูก ติดตั้งง่าย มีน้ำหนักเบา ผิวท่อมีความลื่นดี ทำให้น้ำหรือสิ่งสกปรกภายในท่อไหลออกจากท่อได้ดี การต่อท่อโดยใช้ข้อต่อและน้ำยาประสานเป็นตัวเชื่อม แต่บางทีข้อต่อท่ออาจจะใช้แบบสวมหรือแบบเกลียวก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ข้อต่อ
ข้อดี น้ำหนักเบา ราคาถูกกว่า สามารถดัดงอได้ และไม่เกิดสนิมน้ำในท่อจะสะอาดกว่า
ข้อเสีย ไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกแรงๆได้ ไม่ทน ต่อความดันและอุณหภูมิที่สูง

 อุปกรณ์อื่นๆในงานต่อท่อประปา
 เทปพันเกลียว (Teflon Tape) ในการต่อประกอบท่อโลหะหรือท่อพลาสติกที่มีเกลียวเข้ากับข้อต่อต่างๆ หรือก๊อกน้ำต้องซีลการรั่วไหลของน้ำที่เกลียวท่อ โดยมากเทปซีลจะใช้กับท่อขนาดเล็ก ถ้าเป็นท่อขนาดใหญ่จะใช้ป่านหรือสารสังเคราะห์พวกยางในการซีล ซึ่งมีข้อกำหนดดังนี้ ท่อขนาดไม่เกิน 6 หุน จะพันเกลียวไม่เกิน 3 รอบ ท่อขนาดไม่เกิน 2 นิ้ว จะพันเกลียวไม่เกิน 4 – 6

รอบ ทั้งนี้การพันจะมากหรือน้อยรอบนั้น ยังขึ้นอยู่กับความหนาบางของเทปอีกด้วย เพราะเทปพันเกลียวในปัจจุบันนั้นมีอยู่ 4 สี เขียว ฟ้า ดำ แดง ตลับสีเขียวบางสั้น และขาดง่าย แต่ราคาถูก ตลับสีฟ้า บาง ยาว และขาดง่าย ส่วนตลับสีดำและแดง หนาและขาดยากกว่า แต่ราคาแพงกว่า วิธีพันเกลียว ให้เริ่มพันจากปลายท่อโดยพันตามเกลียวไปจนสุดเกลียว
 น้ำยาประสานท่อ การต่อท่อพลาสติกอาจต่อด้วยน้ำยาต่อท่อหรือต่อด้วยแหวนยางก็ได้ แต่ที่นิยมคือ การต่อท่อด้วยน้ำยาต่อท่อ ซึ่งน้ำยาต่อท่อนี้จะช่วยละลายให้ผิวท่อพลาสติกอ่อนตัวให้ละลายติดกัน การเลือกใช้น้ำยานั้นจะต้องเลือกให้ถูกต้องกับชนิดของท่อพลาสติก แต่ละชนิดมีโครงสร้างของโมเลกุลที่ไม่เหมือนกัน ท่อ PVC อาจจะต้องใช้น้ำยารองพื้นก่อนเพื่อให้ผิวท่อสะอาด น้ำยาต่อท่อจึงจะละลายผิวท่อได้ดี ซึ่งจะทำให้รอยต่อนั้นแข็งแรง การต่อท่อ การต่อท่อเพื่อจ่ายน้ำ ระบายน้ำเสีย ระบายอากาศ หรือต่อเข้าเครื่องสุขภัณฑ์ โดยวัสดุท่อชนิดต่างๆตามความเหมาะสม ต้องคำนึงถึงความทนถาวร ประหยัด และประโยชน์ใช้สอยให้มากที่สุด ดังนั้น งานต่อท่อจึงหมายถึง การวัดระยะท่อ การตัด การทำเกลียว การต่อท่อโดยไม่มีการรั่วไหล ระบบประปาที่ดีนั้นจะต้องมีการต่อให้น้อย

ชนิดของท่อพีวีซี (PVC)
ท่อพีวีซี (PVC) แบ่งตามชนิดการใช้งานโดยใช้สีดังนี้
1. ท่อสีเหลือง เป็นท่อสำหรับร้อยสายไฟฟ้า และสายโทรศัพท์ เพราะสามารถทนต่อความร้อนได้อย่างดี
2. ท่อสีฟ้า เป็นท่อที่ใช้กับระบบน้ำ เช่น น้ำดี น้ำเสีย และการระบาย สามารถทนแรงดันน้ำได้มากน้อยตามประเภทการใช้งาน (มีหลายเกรด)
3. ท่อสีเทา เป็นท่อที่ใช้สำหรับการเกษตร หรือน้ำทิ้ง ก็ได้ ราคาค่อนข้างถูก ไม่ค่อยแข็งแรง ควรจะเดินลอย ไม่ควรฝังดิน
2. ข้อต่อ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อท่อ มีขนาดต่างๆ กัน ใช้ในการเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำประปาหรือน้ำโสโครก หรือ ใช้อุดปลายท่อเมื่อทางเดินท่อสิ้นสุดลง ข้อต่อจะมีทั้งแบบชนิดที่ทำด้วยโลหะและพลาสติก
3. ลิ้นตูน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในงานประปา ใช้สำหรับปิดกั้นหรือควบคุมการไหลของน้ำหรือแก๊สที่ไหลผ่านท่อให้ได้ตามที่ต้องการ ลิ้นประตูน้ำทำด้วยบรอนซ์หรือเหล็กหล่อ ลิ้นที่มีขนาดตั้งแต่ 2 นิ้วขึ้นไปจะทำด้วยบรอนซ์ แต่ลิ้นที่มีขนาดตั้งแต่ ครึ่งนิ้วถึง 2 นิ้ว จะทำด้วยเหล็กหล่อ ลิ้นประตูน้ำมีหลายชนิด เช่น ลิ้นประตูน้ำแบบเกทวาล์ว


4. มาตรวัดน้ำ เป็นอุปกรณ์สำหรับวัดปริมาณของน้ำที่ไหลผ่านอาจวัดเป็นแกลลอน ลูกบาศก์ฟุต หรือลูกบาศก์เมตร โดยอ่านค่าจากหน้าปัทม์ของมาตรวัด ใช้ติดตั้งกับท่อเมนที่จ่ายน้ำก่อนเข้าสู่อาคารบ้านเรือน ส่วนใหญ่แล้วจะใช้แบบดิสค์ (Disk Meters) เพราะมีความเที่ยงตรงสูง ใช้วัดในปริมาณน้อยๆ มีขนาดตั้งแต่ 5/8 – 2 นิ้ว
5. ก๊อกน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ตอนปลายสุดของท่อประปา สำหรับควบคุมการปิดเปิดการไหลของน้ำ ทำจากทองเหลืองหรือบรอนซ์ ชุบนิเกิลหรือโครเมี่ยม ปลายก๊อกส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียบหรือแบบเกลียวสำหรับต่อสายยางรดน้ำต้นไม้ ก๊อกน้ำแบ่งออกหลายประเภทซึ่งมีรูปร่างและประโยชน์ใช้สอยแตกต่างกัน แต่ที่นิยม ใช้กันมี 2 แบบ คือแบบกดอัดปิดและแบบไม่ใช้การกดอัดปิด ก๊อกน้ำแบบกดอัดปิด เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุดในงานประปา ก๊อกน้ำแบบนี้ปิดเปิดด้วยวิธีการหมุนให้ลิ้นยางอัดลงบนบ่า ส่วนก๊อกน้ำแบบไม่ใช้การกดอัดปิด จะเปิดปิดโดยการใช้คันโยกเพียงอันเดียวผลักซ้ายขวาหรือดึงขึ้นลงเท่านั้น
6. เครื่องสุขภัณฑ์ เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในงานประปา ที่อำนวยความสะดวกสบายในการใช้น้ำ และเป็นอุปกรณ์รองรับสิ่งปฏิกูลจากมนุษย์ก่อนการระบายออกจากระบบประปา เครื่องสุขภัณฑ์มีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีวัตถุประสงค์ในการใช้สอยที่แตกต่างกัน เช่น โถส้วม โถปัสสาวะ อ่างล้างมือ อ่างล้างหน้า อ่างล้างจานชาม เป็นต้น

ถ้าค่าน้ำแพงกว่าปกติจะทำอย่างไร
วิธีการตรวจสอบ
1. ปิดก๊อกทุกตัวในบ้าน
2. ดูตัวเลขที่มาตรวัดน้ำ ฟังเสียงและสังเกตดูการเคลื่อนไหวของตัวเลข
3. หากไม่มีท่อแตกรั่ว มาตรจะมีเสียง และตัวเลขก็จะคงที่ ไม่เคลื่อนไหว หากมีท่อแตกรั่ว ตัวเลขจะเดินตลอด น่าจัดกัดซ่อมโดยเร็ว


อ่างล้างหน้าตัน ทำไงดี คาดว่าตันเพราะพวกโฟมล้างหน้า ทำไงดี มันไม่ตันซะที่เดียวหรอก แต่น้ำไหล(ซึม)ช้ามากๆๆ คาดว่าตันเพราะพวกไคลสบู่
ถ้ามุดไปดูใต้อ่างล้างหน้า หากเจอแบบนี้ หรือคล้ายๆ แบบนี้
ถอดชิ้นส่วนออกตามหมายเลขเลยครับ แล้วก็จัดการ ทำความสะอาดซะหรือต้องการเอาง่าย เร็ว สะดวกก็ถอดเฉพาะตรงหมายเลข 4 ได้เลยครับบิดเกลียวนะครับ

 

 

 เรื่องการระบายน้ำทิ้ง
▲ การออกแบบระบบท่อน้ำทิ้งนั้นใช้หลักความลาดเอียงให้เหมาะสม เพื่อให้น้ำไหลในท่อได้เร็วพอที่จะพาขยะ สิ่งโสโครกที่เราขับถ่ายปกติไปสู่บ่อน้ำเสียได้โดยสะดวก ดังนั้นการเดินท่อแนวนอนต้องมีความลาดเอียงลงอย่างน้อย 1:100 (1 เมตร/1 ซม.) จากห้องน้ำไปยังบ่อบำบัดน้ำเสีย จากบ่อบำบัดน้ำเสียไปท่อระบายน้ำฝนรอบบ้าน และจากท่อระบายน้ำฝนไปยังแหล่งปล่อยน้ำทิ้งตลอดแนวท่อระบายน้ำ วิศวกรผู้ออกแบบจะต้องสำรวจและไล่ระดับจากต้นจนปลายให้ได้ หากมีความจำเป็นก็อาจจะต้องยกตัวบ้านให้สูงขึ้น หรือทำบ่อพักและสูบน้ำทิ้งออกไปสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ อุปกรณ์ข้อต่อที่ใช้ต้องเป็นแบบที่ใช้สำหรับการระบายน้ำทิ้งเท่านั้น ห้ามใช้ข้อต่อประปาซึ่งจะมีความโค้งน้อย
▲ สำหรับเรื่องกลิ่นนั้น อุปกรณ์ทุกชนิดที่ต่อกับท่อระบายน้ำทิ้งจะต้องมีที่ดักกลิ่น (คอห่าน) ที่ได้มาตรฐานทุกตัว ตัวไหนไม่มี หรือที่ดักกลิ่นไม่ดีกลิ่นที่ไม่ปรารถนาก็จะมาเยือนได้เสมอ ที่ดักกลิ่นหรือ P-Trap ออกแบบให้มีน้ำขังกันอยู่ระหว่างท่อกับตัวสุขภัณฑ์ กันไม่ไห้กลิ่นผ่านน้ำมาได้ ที่ดักกลิ่นที่ดีต้องมีคุณสมบัติหลักคือ สามารถขังน้ำได้สูงพอประมาณและสามารถถอดล้างเอาขยะออกได้สะดวก สุขภัณฑ์ที่ขายโดยส่วนใหญ่จะมีที่ดักกลิ่นในตัว เช่น โถส้วม หรือจะให้มาพร้อมกับสุขภัณฑ์ เช่น อ่างล้างหน้า, อ่างอาบน้ำ หากไม่มีหรือไม่ให้มา ก็ต้องซื้อเพิ่ม เช่น อ่างล้านจาน (Sink) สำหรับช่องระบายน้ำที่พื้น (Floor Drain) นั้น เป็นปัญหาหลักที่ทำให้เกิดกลิ่น ควรติดตั้ง P-Trap ใต้ช่องระบายน้ำทุกตัว เนื่องจากสินค้าที่ขายทั่วไปที่มีดักกลิ่นที่ตื้นเกินไป ทำให้น้ำที่ขังอยู่แห้งได้ง่าย ขอย้ำอีกครั้ง สุขภัณฑ์ทุกตัวต้องมีที่ดักกลิ่น (P-Trap)การว่า น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ คำนวณขนาดท่อและ

ส้วมเหม็น หรือ กลิ่นส้วม ห้องน้ำเหม็น มาจากของเสีย ( อุจจาระและปัสสาวะ ) ในแต่ละวัน และของเสียเหล่านี้จะถูกย่อยโดยแบคทีเรีย แต่ปฏิกิริยาการย่อยไม่สมบูรณ์จึงส่งผลให้เกิดกลิ่นเน่าเหม็นและก๊าซต่างๆเกิดขึ้น การใช้สารเคมีจึงบำบัดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นและทำให้เกิดสารตกค้างได้

การใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่น ส้วม / ห้องน้ำ
จุลินทรีย์ดับกลิ่นเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุได้ดีมาก ของเสียในบ่อเกรอะส่วนใหญ่เป็นอินทรีย์วัตถุที่จุลินทรีย์สามารถย่อยสลายได้โดยง่าย ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากการที่จุลินทรีย์เข้าไปย่อยมูล กากของเสีย และสิ่งปฏิกูลต่างๆ จึงทำให้ระบบการย่อยสลายสมบูรณ์ ผลที่ตามมาก็คือ กลิ่นเบาลงหรือหายไปในที่สุด การใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียเหล่านี้ให้เป็นไปตามปริมาณของเสีย ถ้าของเสียมีปริมาณมากและมีทุกวัน อาจจะใช้วันเว้นวันหรือ 2-3 วัน/ครั้ง การใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่นควรใช้ชนิดที่เข้มข้นสูงและสดใหม่ ควรใช้เพียวๆแบบไม่ผสมน้ำ โดย

เทจุลินทรีย์ลงในโถส้วม / บ่อเกรอะ / ตามท่อที่มีกลิ่นออกมา การใช้ต่อครั้งอย่าให้น้อยจนเกินไป ให้ใช้พอประมาณ ครึ่งลิตร หรือ หนึ่งลิตร หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาทีสังเกตกลิ่นจะหายไป การใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่นสามารถใช้บ่อยได้ตามความต้องการ ไม่มีอันตรายใดๆ ในทางตรงกันข้ามจะเป็นผลดีต่อระบบบำบัดน้ำเสียของบ่อเกรอะบ้านเรือนของท่าน เพราะจะทำให้ส้วมไม่เต็มง่าย ท่อน้ำไม่อุดตัน การย่อยสลายสิ่งสกปรกต่างๆทำได้ดี ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหากลิ่น นี่คือประโยชน์ของจุลินทรีย์บำบัดกลิ่นในส่วนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์เป็นปุ๋ยน้ำสำหรับรดต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับตามบ้านเรือน



มีปัญหาห้องน้ำมีกลิ่นเหม็น ส้วมส่งกลิ่นแรง กลิ่นส้วมแรง ดับกลิ่นด้วยจุลินทรีย์ กลิ่นหายทันใจ

ห้องน้ำเหม็นหรือห้องน้ำมีกลิ่นแรง ส้วมเหม็นหรือส้วมมีกลิ่นแรง ใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่น กลิ่นหายทันใจโดยไม่ต้องใช้สารเคมี
กลิ่นส้วมหรือกลิ่นห้องน้ำเหม็น ปัญหาโลกแตกที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด บางรายยอมอดทนสูดดมกลิ่นเหม็นจากส้วมหรือกลิ่นส้วม
ส้วม และ ห้องน้ำ เป็นสิ่งที่คู่กับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของมนุษย์ มีบ้านก็ต้องมี ส้วม และ ห้องน้ำ ในบางบ้านมีส้วมและห้องน้ำอยู่ในที่เดียวกัน แต่บ้านบางหลังมี ส้วม กับ ห้องน้ำ แยกกันคนละที่ ส้วมเหม็น และ ห้องน้ำเหม็น เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับหลายท่าน โดยเฉพาะบ้านหรือสถานประกอบการที่มีผู้ใช้ส้วมหรือห้องน้ำจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งสิ่งปฏิกูลก็มีมากตามปริมาณคนใช้ส้วม กลิ่นส้วมและกลิ่นจากห้องน้ำ เป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจของคุณพ่อบ้านแม่บ้าน ตั้งแต่ คอนโดมิเนี่ยม ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว ทั้งราคาถูกและราคาแพงหลายสิบล้านบาทขึ้นไป แต่มีปัญหาเรื่องกลิ่นส้วมหรือกลิ่นห้องน้ำกันมากมาย บ้าน 100 หลังจะมีปัญหากลิ่นส้วมประมาณ 80 หลัง โดยเฉพาะบ้านรุ่นเก่าที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป มักประสบกับปัญหานี้ ซึ่งส่วนมากเกิดจากปริมาณของเสียระบายและย่อยสลายไม่ทัน ไม่มีบ่อพักน้ำรองรับ ซึ่งโดยทั่วๆไปต้องมีทั้งบ่อเกรอะ ( บ่อที่รับของเสียจากส้วม ) และบ่อพักน้ำก่อนที่จะระบายออกสู่สาธารณะ นอกจากนี้ต้องแยกน้ำจากการชะล้างต่าง ( น้ำที่ใช้ประจำวัน ) ไม่ให้ไหลลงไปรวมในบ่อเกรอะ ( แต่ส่วนมากจะต่อลงในบ่อเกรอะแทบทั้งนั้น ) เพราะจะทำให้บ่อเกรอะเต็มเร็ว ท่อน้ำในตำแหน่งต่างๆภายในบ้าน ทั้งในห้องน้ำ ห้องครัว อ่างล้างมือ ต้องแยกน้ำทิ้งไปที่บ่อพักน้ำ ( ส่วนมากจะต่อลงที่บ่อเกรอะ จึงมีกลิ่นเหม็นลอยขึ้นมาตามท่อน้ำ ) มิฉะนั้นจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าของบ้านอย่างแน่นอน ก๊าซ

ไข่เน่าและก๊าซมีเทน จากบ่อเกรอะจะลอยขึ้นมาตามท่อน้ำ ส่งผลให้เกิดกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณใกล้เคียง ยิ่งเวลาที่ฝนตกจะมีกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรงรบกวนคนในบ้านสุขภาพจิตแย่ ได้กลิ่นแล้วหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสีย หรือถ้ามีแขกมาเยือนบ้านก็อาจทำให้อับอายขายหน้าได้ บางท่านนำสารเคมีหรือน้ำหอมมากลบกลิ่น แต่ก็ไม่หายสักที ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุดับกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ
ใช้ ห้องน้ำไปนานๆ ไม่ว่าบ้านไหนๆ ก็จะต้องมีกลิ่นน่ารังเกียจโชยออกมาจากชักโครก ให้คุณละลายเกลือเม็ดใหญ่ในน้ำ2-

3ลิตรจนน้ำเค็มจัด จากนั้นนำไปราดที่โถส้วม ทิ้งไว้สักครู่หนึ่งกลิ่นที่น่ารังเกียจก็จะหายไป ลองดูครับง่ายๆ

 

 

ชักโครกมีกลิ่นเหม็น มีวิธีแก้ไขอย่างไร?
Q : ชักโครกมีกลิ่นเหม็น มีวิธีแก้ไขอย่างไร?
A : เริ่มจากตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่ากลิ่นมาจากชักโครก หรือ ท่อระบายน้ำทิ้งที่พื้น หรือ อ่างล้างหน้า กันแน่
ถ้ามาจากชักโครก ก็อาจมีกลิ่นมาจาก 2 จุด คือ
1. กลิ่นที่ขึ้นมาจากคอห่านในส้วม ถ้ามีน้ำอยู่ในคอห่านกลิ่นจะขึ้นมาไม่ได้ แต่ระหว่างที่เรากดน้ำ/ราดน้ำลงทิ้งลงส้วม จะมีจังหวะที่น้ำที่คอห่านหายไป ซึ่งกลิ่นอาจสวนขึ้นมาได้ ซึ่งน่าจะต้องตรวจสอบท่อระบายอากาศของส้วมว่าอุดตันหรือไม่? (ขนาดท่อระบายอากาศไม่ควรน้อยกว่า 2 นิ้ว / ปลายท่อระบายอากาศควรติดตั้งตาข่ายกันแมลง / ควรแยกท่อระบายอากาศของส้วมและน้ำทิ้งอื่นๆออกจากกัน )
2. กลิ่นที่มาจากรอยต่อระหว่างชักโครก กับพื้นห้องน้ำ ซึ่งต้องแก้โดยถอดชักโครกออกแล้วติดตั้งใหม่ให้รอยต่อของท่อที่ตัวชักโครกติดสนิทกับท่อที่พื้น

แต่ถ้ากลิ่นมาจากท่อน้ำทิ้งที่พื้น ก็ให้ดูว่าที่ฝาท่อระบายน้ำทิ้งที่พื้น (Floor Drain) ว่าเป็นชนิดที่มีระบบน้ำขังอยู่ในที่ดักของฝา (Trap) หรือไม่ ถ้าไม่มีกลิ่นก็จะขึ้นมาจากท่อได้ จึงควรเปลี่ยนไปใช้ฝาท่อชนิดที่มีที่ดักกลิ่นแต่ถ้าเป็น Floor Drain เป็นชนิดมี Trap อยู่แล้ว ก็ดูว่ามีน้ำขังอยู่ในที่ดักหรือไม่ ถ้าไม่ก็เติมน้ำลงไป และการที่น้ำในที่ดักแห้งบ่อย ทั้งๆที่ใช้งาน (มีน้ำผ่านที่ดักประจำ) อาจเป็นเพราะท่อระบายอากาศของท่อน้ำทิ้งชุดนี้อุดตัน

แต่ถ้ากลิ่นมาจากท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างหน้า ก็ให้ดูว่าใต้อ่างล่างหน้ามีท่อระบายน้ำทิ้งแบบกระปุก ( Bottle-Trap) หรือข้องอสำหรับดักกลิ่น(S-Trap) หรือไม่ ซึ่งต้องมีไว้เพื่อดักกลิ่นจากท่อไม่ให้ย้อนกลับขึ้นมาและดักเศษผงได้อีกด้วย แต่ถ้ามีอยู่แล้วก็อาจเป็นเพราะว่ามีเศษผงอุดตันจำนวนมากอยู่ในTrapดังกล่าว ทำให้น้ำที่ดักอยู่เน่าเหม็น การแก้ไขคือถอด Trap

 

 

ดังกล่าวออกมาล้างทำความสะอาด

จุลินทรีย์ดับกลิ่นห้องน้ำ / ห้องส้วม

มีปัญหาส้วมเหม็น ส้วมส่งกลิ่นแรง ห้องน้ำมีกลิ่นแรง กลิ่นลอยขึ้นมาตามท่อน้ำทิ้ง ดับกลิ่นเหม็นด้วยจุลินทรีย์ดับกลิ่น

บ้านทุกหลังต้องมีห้องน้ำ ห้องส้วม บางหลังมีห้องน้ำและห้องส้วมรวมอยู่ในที่เดียวกันที่เรียกว่าห้องรวม ( ห้องน้ำ+ห้องส้วม ) แต่บางหลังโดยเฉพาะบ้านเดี่ยวจะมีห้องน้ำซึ่งแยกต่างหากจากห้องส้วม จากคำที่ว่าบ้านใดจะสะอาดหรือไม่ให้ดูที่ห้องน้ำและห้องส้วม ( รองจากห้องนอน ) บางท่านให้ความสำคัญกับห้องน้ำมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะถือว่าห้องน้ำเป็นสถานที่ทำความสะอาดร่างกายหลังจากที่ตรากตรำทำงานหนักมา ดังนั้นห้องน้ำจะต้องสะอาดไม่มีกลิ่นเหม็นมารบกวนอารมณ์ในขณะที่เหนื่อยๆ ซึ่งจะทำให้หงุดหงิดง่ายอารมณ์เสียบ่อย โดยเฉพาะกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่ลอยขึ้นมาตามท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำละอ่างล้างมือ ( ต่อท่อน้ทิ้งจากห้องน้ำละอ่างล้างมือลงไปที่บ่อเกรอะ โดยตรง) ซึ่งบ้านส่วนใหญ่จะต่อท่อระบายน้ำจากห้องน้ำเข้ากับบ่อเกรอะโดยตรงเลย เพราะว่ามันง่ายดี แต่ผลเสียที่ตามมาที่จะทำให้เจ้าของบ้านปวดหัวนั่นก็คือ กลิ่นเหม็นจากบ่อเกรอะที่ลอยขึ้นมาตามท่อระบายน้ำนั่นเอง แต่ถ้าบ้านไหนมีการแยกท่อน้ำทิ้งไปลงบ่อพักน้ำ ( ไม่เข้าบ่อเกรอะ ) ก็จะไม่ประสบกับปัญหากลิ่นดังกล่าว และมีบ้านบางหลังที่ต่อท่อระบายน้ำจากห้องน้ำลงไปสู่ท่อน้ำคลำสาธารณะซึ่งมีไม่น้อยเลย ทำให้ได้รับกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มาจากท่อสาธารณะแบบเต็มๆ ซึ่งถือว่าโชคร้ายที่สุด ปัญหาเรื่องกลิ่นจากห้องน้ำส่วนมากจะเป็นก๊าซไข่เน่า ก๊าซมีเทน จากบ่อเกรอะซึ่งเป็นแหล่งรวมสิ่งปฏิกูลของเสียต่างๆในแต่ละวันหมักหมมกัน แบคทีเรียในบรรยายกาศเข้าไปย่อยสลาย แต่เป็นการย่อยสลายที่ไม่สมบูรณ์จึงเกิดกลิ่นเน่าเหม็นขึ้น โชคร้ายกว่านั้นบ้านบางหลังมีห้องน้ำติดกับห้องนอน หรือมีห้องน้ำติดกับห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหาร กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะโชยมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกใหม่ๆ หรือในช่วงหน้าหนาว กลิ่นเน่าเหม็นจะโชยมาเยี่ยมแขกและคนในบ้าน ซึ่งอาจจะทำให้เจ้าของบ้านได้รับความอับอายเป็นได้ ก่อความรำคาญและอาจเกิดอาการเครียดได้ ส่งผลต่อสุขภาพจิตของคนทั้งบ้าน การใช้สารเคมีช่วยระงับกลิ่นก็ทำได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวไม่ได้แก้ไขที่ต้นเหตุ ซ้ำยังมีสารเคมีตกค้างซึ่งไม่เป็นผลดีแน่นอน การใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่น

 

๑๐

บำบัดเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด เพราะจุลินทรีย์ดับกลิ่นไม่ใช่สารเคมี แต่จะทำหน้าที่ย่อยสลายสิ่งสกปรกต่างๆโดยตรง รวมถึงกากของเสียที่ย่อยไม่หมด ทำให้เกิดกระบวนการย่อยสลายระหว่างจุลินทรีย์ดับกลิ่นและสิ่งสกปรก ส่งผลให้กลิ่นเน่าเหม็นต่างๆสงบลง นอกจากนี้ยังช่วยให้ส้วมไม่เต็มง่าย กากของเสียต่างๆถูกย่อยสลายหมด บรรดาก๊าซไข่เน่าและก๊าซมีเทนก็เกิดขึ้นน้อยมาก จนไม่ค่อยได้กลิ่น ความถี่ของการเติมจุลินทรีย์ดับกลิ่นขึ้นอยู่กับปริมาณของสิ่งปฏิกูลในแต่ละวันว่ามากน้อยแค่ไหน ถ้ามีมากก็อาจจะเติม 2 ครั้งต่ออาทิตย์หรือมากกว่านั้นก็ได้ แต่ถ้าสิ่งปฏิกูลมีน้อยอาจจะ อาทิตย์ละครั้ง หรือ 2-3 อาทิตย์ต่อครั้ง การเติมต่อครั้งให้เติมจุลินทรีย์ดับกลิ่นแบบสดๆ โดยเทลงในท่อในทิ้งที่มีกลิ่น โถส้วม อ่างล้างมือ ท่อน้ำทิ้ง( กรณีมีกลิ่นลอยขึ้นมาตามท่อน้ำอ่างล้างมือ ) เทพอประมาณหรือมากได้ตามต้องการ การใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่น/บำบัดน้ำเสียในครั้งแรกควรใช้ในปริมาณที่มากกว่าปกติ หลังจากนั้นในการใช้ครั้งต่อๆไปให้ลดลงได้ เนื่องจากของเสียต่างๆที่ตกค้างสะสมมานานถูกย่อยไปเกือบหมดแล้ว จุลินทรีย์ดับกลิ่นบำบัดน้ำเสียไม่มีอันตรายใดๆต่อตัวเราและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในทางตรงกันข้ามจะช่วยให้สิ่งแวดล้อมโดยรวมดีขึ้น น้ำเสียที่ระบายออกไปสู่สาธารณะได้รับบำบัดกลายเป็นน้ำดี เท่ากับเราปล่อยน้ำดีออกสู่สิ่งแวดล้อมส่วนรวม
การใช้จุลินทรีย์บำบัดกลิ่นและปรับกลิ่นในห้องน้ำ/ห้องส้วม
ให้นำจุลินทรีย์ประมาณ 100 ซีซี ผสมน้ำประมาณ 500 ซีซี เสร็จแล้วเติมหัวน้ำหอมลงไปประมาณ 10-15 ซีซี เขย่าให้เข้ากันเทลงในขวดที่สามารถสเปรย์ได้ ซึ่งมีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ส่วนหัวน้ำหอมจะใช้กลิ่นอะไรเลือกได้ตามใจชอบ สเปรย์น้ำจุลินทรีย์ที่ผสมเรียบร้อยแล้วทั่วๆห้องน้ำ/ห้องส้วม โถส้วม โถปัสสาวะละบริเวณที่อับชื้น ซึ่งจะช่วยบบัดกลิ่นได้ ( ไม่ใช่การกลบกลิ่น ) ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยปรับอากาศให้มีกลิ่นหอมตามหัวน้ำหอมได้ ทำเช่นนี้ได้ทุกวันยิ่งเป็นการดีต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ห้องน้ำ/ห้องส้วม

 

อ่างล้างหน้าที่ทำจากเซรามิคเมื่อใช้ไปนานๆ จะเกิดคราบสกปรกดูไม่น่าใช้ มีวิธีการทำความสะอาดอ่างล้างหน้ามาบอก

เริ่มจาก นำผ้าสะอาดชุบน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ถูให้ทั่วบริเวณพื้นผิวของอ่าง แล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ จากนั้นค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด แต่ถ้าอ่างมีคราบหินปูนหรือคราบสนิมเกาะ ให้ใช้แอมโมเนียผสมกับน้ำมะนาว ถูบริเวณคราบดังกล่าว ไม่นานคราบหินปูนและสนิมก็จะหลุดออก
๑๑
เพียงเท่านี้ อ่างล่างหน้าก็จะสะอาดน่าใช้ดังเดิม.

 

การแก้ปัญหาท่อน้ำทิ้งอุดตันมีมากมายหลายวิธีแล้วแต่ผู้ใช้จะลองวิธีไหน ถ้าสามารถทำให้ท่อนั้นหายตันได้และเสียค่าใช้จ่ายน้อยไม่ลุกลามเกิดความเสียหายมากกว่าที่เป็น ก็ควรทำแต่ถ้าทำสุดความสามารถแล้วไม่สำเร็จ ควรปรึกษาช่างที่มีความชำนาญ

วิธีแก้ปัญหาท่อน้ำตันในห้องน้ำ
ขั้นตอนที่ 1
ใช้ผงละลายไขมันและสิ่งอุดตันเป็นผงเคมีประเภทโซดาไฟละลายน้ำและเทลงในท่อ วิธีนี้สำหรับการที่ท่อนั้นอุดตันจากคราบสบู่ไปเกาะตามผนังท่อและควรใช้กับท่อเหล็ก หากเป็นท่อพีวีซีความเข้มข้นจะต้องลดลง

ขั้นตอนที่ 2
ในชักโครกหากท่อตัน FLUSH แล้วไม่ลงอาจจะเกิดจากข้องอต่าง ๆ ที่ต่อจากตัวสุขภัณฑ์เกิดการอุดตันจากสิ่งปฏิกูลหรือกระดาษชำระที่ไปอุดไว้แล้วไม่ละลายไป หรือเส้นผมไปจับตัวกันเป็นก้อน แล้วอุดช่องระบายน้ำก็เป็นไปได้ใช้ตัวปั๊มยางเป็นการอัดอากาศเข้าไปผลักดันให้เศษที่อุดตันหลุดออก

ขั้นตอนที่ 2
ในชักโครกหากท่อตัน FLUSH แล้วไม่ลงอาจจะเกิดจากข้องอต่าง ๆ ที่ต่อจากตัวสุขภัณฑ์เกิดการอุดตันจากสิ่งปฏิกูลหรือกระดาษชำระที่ไปอุดไว้แล้วไม่ละลายไป หรือเส้นผมไปจับตัวกันเป็นก้อน แล้วอุดช่องระบายน้ำก็เป็นไปได้ใช้ตัวปั๊มยางเป็นการอัดอากาศเข้าไปผลักดันให้เศษที่อุดตันหลุดออก
๑๒
ขั้นตอนที่ 3
ในกรณีที่สิ่งอุดตันในท่อแน่นมากเกินกว่าจะใช้ตัวปั๊มอากาศวัดให้ออกได้ ให้ใช้งูเหล็กซึ่งจะเป็นสายเคเบิ้ลสามารถที่จะใช้งอเข้าตามข้อต่าง ๆ ได้และคว้านเอาสิ่งอุดตันให้หลุดออกจากท่อน้ำได้และยังสามารถที่จะคว้านทำความสะอาดผิวภายในท่อให้หมดคราบสกปรกได้ ช่วยให้ระบายน้ำได้ดี

ขั้นตอนที่ 4
ตรวจสอบดูว่าท่อระบายสิ่งปฏิกูลในห้องน้ำมีท่อสำหรับระบายอากาศออกเพื่อช่วยให้การระบายดีขึ้นหากไม่มีควรจะทำโดยเรียกช่างมาทำการติดตั้งท่อระบายอากาศ

ขั้นตอนที่ 5
สำหรับบ้านที่มีช่วงท่อระบายยาว ๆ และไม่รู้ว่าเกิดการอุดตันช่วงใดบ้าง การเรียกช่างบริการมาตรวจสอบและแก้ปัญหาเพราะช่างจะมีเครื่องมือที่ทำงานได้ดีกว่า

 

 

 

วิธีแก้ปัญหาท่อน้ำทิ้งตัน
ขั้นตอนที่ 1
ถอดฝาครอบท่อน้ำทิ้ง หรือถอดท่อน้ำทิ้ง ปลดล็อคสายเคเบิ้ล ของงูเหล็ก และสอดปลายสายเข้าไปในท่อเรื่อย ๆ จนปลายของสายเคเบิ้ลสัมผัสส่วนที่อุดตันขั้นตอนที่ 2
กรณีที่เจอส่วนโค้งของท่อ หรือดันสายต่อไปไม่ได้อีก ให้ล็อคสายเคเบิ้ลโดยเหลือระยะห่างจากปากท่อน้ำทิ้งประมาณ 6

 

๑๓

นิ้ว แล้วหมุนที่ตลับตามเข็มนาฬิกา พร้อมออกแรงดันสายเคเบิ้ลไปข้างหน้า หลังจากนั้นให้ปลดล็อคสาย แล้วดันสายต่อไปอีก
ขั้นตอนที่ 3
เมื่อแน่ใจว่าเจอส่วนที่อุดตันแล้ว ล็อคสายเคเบิ้ลและหมุนตามเข็มนาฬิกา สิ่งปฏิกูลที่อุดตันอยู่จะติดปลายสายเคเบิ้ล

ขั้นตอนที่ 4
ปลดล็อคสายเคเบิ้ล แล้วค่อย ๆ ดึงสายออกจากท่อ ทำซ้ำข้อ 1  3 จนแน่ใจว่าสิ่งอุดตันออกหมดแล้วหากทำแล้วไม่พบสิ่งอุดตันเลยตั้งแต่แรก ให้ย้ายไปทำกับท่อระบายที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งนำไปสู่ทางระบายใหญ่

ขั้นตอนที่ 5
เมื่อสิ่งปฏิกูลหลุดออกแล้ว ให้ใส่สายกลับเข้าไปในท่อใหม่อีกครั้ง แล้วทำซ้ำขั้นตอนเดิม เพื่อให้ปลายสายขูดเอาคราบสิ่งปฏิกูลที่สะสมเกาะติดท่ออยู่ออก จากนั้นให้ต่อท่อน้ำทิ้งกลับตามเดิม แล้วเทน้ำร้อนลงไปในท่อ เพื่อล้างคราบออกให้หมด

 

ท่อพีบี ตรา PBP

ท่อพีบี ตรา PBP
เป็นท่อน้ำที่ผลิตจากเรซินโพลิบิวทิลีน (Polybutylene Resin) ซึ่งเป็นเรซินที่มีคุณภาพจากยุโรปและอเมริกา เป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง (High Molecular Weight) ซึ่งทำให้คุณสมบัติ

 

๑๔

ทางการภาพต่างๆรวมทั้งค่าของความคงทนต่อสภาวะแวดล้อม (ESCR Environmental Stress Cracking Resistance) สูงตามไปด้วย ทำให้ท่อพีบี เหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นท่อน้ำประปาทั่วไป ซึ่งสามารถทนอุณหภูมิได้ –40 °c สูงถึง 48 °c และท่อน้ำร้อนสามารถทนอุณหภูมิได้ –15 °c สูงถึง 90 °c

การติดตั้ง สามารถติดตั้งได้ 3 ระบบ คือ
การต่อท่อระบบสวมล็อค (Grab Lock)
เป็นการต่อท่อที่สะดวก รวดเร็วนำโดยท่อที่ปาดปลายท่อแล้วมาสวมเข้ากับข้อต่อแล้วขันเกลียวให้แน่น ซึ่งการต่อท่อระบบนี้ทนแรงดันได้ดีเหมาะสำหรับ การติดตั้งเป็นท่อประปาทั้งภายในและภายนอกอาคาร และสามารถใช้เป็นท่อน้ำร้อนได้อีกด้วย การต่อท่อระบบนี้ใช้ได้กับท่อขนาดตั้งแต่ 15-50 มม.
การต่อท่อระบบเชื่อมสอด (Socket Fusion)
เป็นการต่อท่อที่ใช้ความร้อนละลายผิวภายนอกของท่อและผิวภายในของข้อต่อพร้อมกันแล้วนำมาเชื่อมต่อกัน ท่อและข้อต่อจึงเชื่อมต่อสนิทเป็นเนื้อเดียวกันจึงเหมาะที่จะนำไปใช้ได้ทั้งระบบน้ำร้อนและน้ำเย็น โดยเฉพาะการส่งน้ำแรงดันสูง การต่อท่อระบบนี้ใช้ได้กับท่อขนาดตั้งแต่
15-150 มม.
การต่อท่อระบบเชื่อมชน (Butt Fusion)
เป็นการต่อท่อโดยใช้แผ่นความร้อนละลายปลายท่อทั้งสองท่อนที่จะเชื่อมต่อกันจนได้ที่แล้ว นำมาเชื่อมชนกันด้วยแรงดันที่พอเหมาะ
การเชื่อมต่อแบบนี้จะใช้ได้ดีกับท่อขนาดใหญ่ที่มีผนังท่อหนาพอสมควร โดยทั่วไปควรเป็นท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่
65 มม. ขึ้นไป

 

ตรวจสภาพระบบสุขาภิบาล บ้านมือสอง


ระบบสุขาภิบาลคือระบบที่รวมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ทั้งน้ำใช้ และน้ำทิ้ง ระบบสุขาภิบาลมักจะเป็นระบบที่สร้างปัญหากวนใจให้กับเจ้าของบ้านทุกหลัง ดังนั้นมีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรจะต้องพิจารณาไปดูกันครับ

ระบบน้ำประปา
การตรวจสอบมิเตอร์ ให้ทำการปิดก๊อกน้ำทุกจุดในบ้าน แล้วตรวจสอบดูว่ามิเตอร์น้ำยังหมุนทั้งๆ ที่ไม่มีการใช้น้ำใดๆ ในบ้านหรือไม่ หากมิเตอร์น้ำยังหมุนอยู่แสดงว่าท่อน้ำประปาในบ้านต้องเกิดการรั่วขึ้น การจะตรวจสอบว่ารั่วที่จุดใดคงเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะท่อประปาส่วนใหญ่มักจะเดินซ่อน หรือฝังอยู่ในผนัง ดังนั้นหากพบปัญหาเรื่องการรั่วของท่อประปา

 

 

๑๕

จึงถือว่าเป็นข้อเสียที่ต้องชั่งใจพอสมควรเลยทีเดียว

สำหรับการพิจารณาตรวจสอบความจุของถังเก็บน้ำก็พิจารณาได้ดังนี้ จำนวน 5-6 คน ควรใช้ถังเก็บน้ำที่มีความจุประมาณ 1,200 ลิตร จำนวน 7-8 คน ควรใช้ถังเก็บน้ำที่มีความจุประมาณ 1,600 ลิตร จำนวน 9-10 คน ควรใช้ถังเก็บน้ำที่มีความจุประมาณ 2,000 ลิตร หากถังน้ำในบ้านมือสองมีขนาดที่ไม่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกที่จะเข้าไปอยู่ก็คงต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไว้ด้วยเช่นกัน

การตรวจสอบระบบน้ำในห้องน้ำ ให้ทำการเปิดก๊อกน้ำรวมทั้งฝักบัวทุกอันจนสุด เพื่อตรวจสอบดูว่าน้ำไหลได้ดีหรือไม่ หรือมีก๊อกใดไหลอ่อนกว่าปกติ หากมีก๊อกใดไหลอ่อนกว่าปกติอาจเป็นไปได้ว่าท่อประปามีขนาดไม่เหมาะสมกับจำนวนก๊อกน้ำในห้องน้ำ หรือเครื่องปั๊มน้ำมีแรงดันไม่เพียงพอ

ในขณะที่เราทดสอบเปิด-ปิดก๊อกน้ำทั้งหมดในห้องน้ำ ให้เราตรวจสอบปั๊มน้ำพร้อมๆ กับก๊อกน้ำโดยเมื่อปิดก๊อกน้ำทั้งหมดเครื่องปั๊มน้ำก็ไม่ควรทำงาน หากเครื่องยังคงทำงานก็แสดงว่าอาจเกิดการรั่วซึมขึ้นในระบบประปานั่นเอง
หลักจากนั้นจึงทดลองหมุนเปิด-ปิดก๊อกน้ำให้สุดทีละจุด จุดละ 2-3 ครั้ง ว่ามีปัญหาติดขัดหรือไม่ และสังเกตดูว่าเมื่อปิดก๊อกน้ำจนสุด น้ำหยุดไหลสนิทหรือไม่ และสำหรับก๊อกน้ำจุดอื่นภายในบ้านก็ให้ใช้วิธีนี้ตรวจสอบกับก๊อกน้ำทุกจุดด้วยเช่นกัน

ระบบน้ำทิ้ง
ระบบน้ำทิ้งจะมีอยู่หลายจุดภายในบ้าน เช่น รูระบายน้ำทิ้งในห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า อ่างล้างชาม รวมไปถึงจุดระบายน้ำบริเวณระเบียง
สำหรับรูระบายน้ำทิ้งในให้น้ำ รวมไปถึงบริเวณระเบียงหรือลานซักล้าง ให้ทดลองเปิดก๊อกน้ำบริเวณนั้นเพื่อทดสอบการไหลของน้ำที่รูระบายน้ำทิ้ง ว่าไหลได้อย่างสะดวกหรือไม่ นอกจากนี้ควรตรวจสอบทิศทางการไหลของน้ำและความลาดเอียงของการระบายน้ำไปพร้อมๆ กันอีกด้วยว่าจะเกิดน้ำขังในบริเวณนั้นหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ให้สังเกตท้องพื้นบริเวณใต้พื้นห้องน้ำ หรือท้องพื้นบริเวณใต้ระเบียงชั้นสอง รวมไปถึงท่อและข้อต่อ ด้วยว่ามีน้ำซึม รั่ว หรือหยดลงมายังพื้นชั้นล่างหรือไม่หลังจากที่เราทดสอบรูระบายน้ำที่พื้นบริเวณชั้นบนแล้ว เพราะการแก้ปัญหาเรื่องการรั่วซึมทำได้ค่อนข้างลำบากและจะเป็นปัญหากวนใจเราไปอีกนานทีเดียว
๑๖

สำหรับอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า อ่างล้างชาม ให้ทดสอบด้วยการปิดสะดืออ่าง แล้วปล่อยน้ำให้เต็มจนน้ำนั้นล้นออกทางช่องน้ำล้นของอ่างนานประมาณ 1 นาทีเพื่อตรวจสอบระบบป้องกันน้ำล้นของอ่าง หลังจากนั้นก็ที่ปิดสะดืออ่างออกและตรวจสอบการไหลออกของน้ำว่าสามารถไหลออกได้สะดวกหรือไม่ ถ้าน้ำไหลออกช้าและมีฟองอากาศผุดขึ้นมา แสดงว่าอาจเกิดปัญหาที่ระบบท่ออากาศหรือไม่ได้มีการติดตั้งท่ออากาศเอาไว้ หากน้ำไหลช้าแต่ไม่มีฟองอากาศผุดออกมาอาจสันนิษฐานว่าอาจมีสิ่งแปลกปลอมไปอุดตันในท่อ นอกจากนั้นให้ทำการตรวจสอบท่อ และพื้นบริเวณใต้อ่างว่ามีน้ำหยดหรือไม่

สำหรับชักโครกหรือโถส้วมก่อนทำการทดสอบให้ราดน้ำที่พื้นบริเวณรอบฐานชักโครกหรือโถส้วม จากนั้นให้ทดลองใช้งานว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ โดยเมื่อกดน้ำแล้ว น้ำที่ใช้ชำระไหลได้คล่องหรือไม่ หากมีฟองอากาศผุดขึ้นมาก็แสดงว่าท่ออากาศของส้วมอาจมีปัญหาคล้ายๆ กับสุขภัณฑ์ประเภทอ่างที่กล่าวมาแล้ว สังเกตบริเวณรอบฐานชักโครกหรือโถส้วมว่ามีฟองอากาศผุดออกมาด้วยหรือไม่เพราะถ้ามีอาจเป็นไปได้ว่าการติดตั้งโถส้วมบริเวณฐานนั้นไม่ถูกต้องซึ่งจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นย้อนได้ จากนั้นก็ลองเปิดฝาถังเก็บน้ำออกดูเพื่อตรวจสอบระบบลูกลอยว่าทำงานปกติหรือไม่ โดยเมื่อน้ำเต็มถังลูกลอยจะลอยตัวขึ้นและปิดวาล์วน้ำที่จะเข้าถังได้สนิทหรือไม่ โดยน้ำในถังไม่ควรเกินช่องระบายน้ำล้นของระบบ และไม่มีเสียงน้ำไหลเข้าระบบอีก ถ้ายังมีเสียงก็แสดงว่าเราก็มีสิทธิ์เสียเงินอีกเช่นกันครับ

สำหรับบ่อบำบัด ให้เปิดฝาบ่อบำบัด และตรวจสอบระดับน้ำในบ่อบำบัดโดยให้สังเกตว่าน้ำในบ่อมีระดับสูงเกินไปหรือไม่ หากสูงเกินไปแสดงว่าบ่อบำบัดอาจเกิดรอยแตกและทำให้น้ำใต้ดินไหลเข้ามาในบ่อบำบัด ซึ่งจะส่งผลให้ถังส้วมเต็มเร็วกว่าปกตินั่นเอง


 

๑๗

ปัญหาในห้องน้ำสามารถแยกกล่าวถึงได้ 3 ประเด็น คือ
1. ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างของห้องน้ำ
2. ปัญหาเกี่ยวกับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์
3. ปัญหาเกี่ยวกับงานระบบของห้องน้ำ
ต่อไปนี้จะกล่าวถึงปัญหาที่พบบ่อยหรือน่าสนใจตามประเด็นทั้งสาม ดังนี้
ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างของห้องน้ำ มักจะพบกับสภาพชำรุดหรือแตกร้าวของผนังและพื้น กรณีนี้เป็นได้กับส่วนอื่น ๆ ของตัวอาคาร เพราะเป็นเรื่องราวของโครงสร้าง คือ ฐานราก เสา และคาน

การแก้ไข ต้องดูที่สาเหตุว่ามาจากส่วนใด แค่ถ้าเป็นพื้นผนังที่มีรอยร้าวไม่มากนัก ก็ใช้ผง water plug ผสมปูนซีเมนต์ยาแนวได้ ปัญหาเรื่องพื้นในห้องน้ำ มักจะมีการรั่วซึม เป็นเพราะพื้นหมดอายุหรือมีการทรุดตัวบ้าง หากเป็นมากต้องทุบออกแล้วเทพื้นใหม่ ถ้าเป็นพื้นชั้นบนถือเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อพื้นชั้นบนมักจะหล่อติดต่ออยู่กับคานของห้อง หากพื้นร้าวแสดงว่าทำพื้นผิดวิธี ต้องรื้อทั้งหมดแล้วทำใหม่ หรืออาจใช้โครงเหล็กยึดที่ท้องคานรับตัวพื้นเอาไว้ แล้วแก้ไขรอยร้าวของพื้น
ปัญหาเกี่ยวกับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นที่โถส้วม โถปัสสาวะ มีการอุดตันต้องแก้ไขที่สะดือและท่อระบายน้ำ ถ้าอุดตันให้ใช้ลวดแข็ง ๆ ทะลวงเข้าไปในท่อ เพื่อให้สิ่งอุตันหลุดออกมา หรือใช้โซดาไฟราดเพื่อสลายสิ่งอุดตันนั้นให้หลุดออก โถส้วมราดไม่ลง เพราะมีอากาศค้างอยู่ในท่อระบายของเสีย ต้องทำช่องระบายอากาศเพิ่มเติม หามีแล้วให้สำรวจดูว่าตันหรือไม่

ปัญหาการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็มีผลทำให้โถสุขภัณฑ์มีการขยับตัวทำให้กลิ่นออกมาได้ ดังนั้นต้องหมั่นตรวจตรารอยเชื่อมต่อทั้งหลายระหว่างสุขภัณฑ์กับพื้น หรือกับท่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากพบก็ควรรีบซ่อมแซมด้วยการใช้ปูนซีเมนต์หรือปูนขาวอุดตามรอยต่อ แต่ถ้ามีรอยแตกมากก็ให้ใช้ปูนซีเมนต์ผสมกับคอนกรีตอุดตามรอยต่อนั้น ๆ

หากเป็นห้องน้ำแบบมาตรฐานมักจะก่อเป็นบ่อน้ำสำหรับตกอาบบุด้วยกระเบื้องเคลือบ หลายครั้งน้ำจะซึมผ่านตามแนวอิฐและแผ่นกระเบื้องเคลือบออกมา วิธีง่าย ๆ คือหารอยที่น้ำซึมออกมาแล้วใช้ปูนซีเมนต์ขาวอัดยาแนวในขณะที่น้ำต่ำจากแนวรั่วซึมนั้น นอกจากนี้ น้ำและความชื้นจะทำให้ผนังห้องอีกด้านหนึ่งสีบวม หรือกระดาษปิดผนังหลุดล่อน โดยเฉพาะผนังด้านที่ก่ออิฐประกอบเป็นบ่อน้ำดังกล่าว ดังนั้น ก่อนที่จะบุกระเบื้องเคลือบควรใช้วัสดุกันซึมทาก่อนเพื่อป้องกันการซึมของน้ำ

หากเป็นกรณีที่ใช้อ่างอาบน้ำในห้องน้ำชั้นบน ก่อนวางอ่างให้ทำพื้นบริเวณที่จะวางด้วยการขัดมัน หรือใช้น้ำยากันซึม เพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมที่ใต้อ่างอาบน้ำลงมายังฝ้าเพดานด้านล่าง
พื้นหลุดล่อน ส่วนใหญ่จะเป็นกับพื้นกระเบื้องหรือโมเสก หรือพื้นหินในบางกรณี ส่วนใหญ่จะเกิดจากมีน้ำซึมลงเบื้องล่าง

 

๑๘

ทำให้ปูนที่ยึดกระเบื้องกับพื้นคอนกรีตของห้องน้ำเสื่อมสภาพ การแก้ไขต้องเลาะกระเบื้องเก่าส่วนที่หลุดและจะหลุดออกแล้วปูใหม่ตามกรรมวิธี ปัจจุบันมีกาวติดกระเบื้องน่าจะให้ผลดีกว่าการปูแบบเดิม ๆ
อุปกรณ์ต่าง ๆ หมดอายุหรือใช้งานไม่ดีเท่าทีปรากฏ เราจะเห็นว่าเป็นการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีราคาถูกไม่ได้มาตรฐาน เช่น ไม่มียางกันซึม ทำให้น้ำซึมจากหัวฉีดจากตัวก๊อก ก้านชัดโครกค้างหรือทำงานไม่ดีก็เป็นด้วยสาเหตุเดียวกัน ควรแก้ไขด้วยการใช้อุปกรณ์มาตรฐานชั้นดีมาแทน เวลาที่ไปซื้อก็ควรนำเอาอุปกรณ์เก่าไปเทียบรุ่นด้วยเพื่อป้องกันความผิดพลาด

ในการใช้ก๊อกน้ำหรือวาล์วควบคุมการเปิด-ปิดน้ำ ทางที่ดีควรต่อวาล์วย่อย (Nipple) สำหรับปิด-เปิดน้ำในส่วนของก๊อกอ่างล้างหน้า ชักโครก สายฉีดชำระไว้โดยเฉพาะเผื่อเวลาที่มีการรั่วซึมหรือซ่อมแซมจะได้ปิดน้ำเฉพาะจุดที่ต้องการซ่อมแซมเท่านั้น
ปัญหาเกี่ยวกับระบบท่อ โดยทั่วไปจะเป็นที่ระบบระบายน้ำทิ้ง เช่น ท่อตัน ท่อระบายน้ำไม่ทัน การใช้ท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว จะช่วยให้ระบายน้ำดีขึ้น ทำนองเดียวกัน ควรใช้ตะแกรงฝาท่อระบานน้ำแบบดักผงได้ป้องกันการอุดตัน ท่อหลุดก็พบได้เสมอ เนื่องจากเป็นท่อที่ใช้งานมานาน กาวเชื่อมท่อหมดอายุ ต้องทากาวใหม่ ทางที่ดีควรใช้กาวอย่างดี (เป็นกาวหลอด) สำหรับทาท่อน้ำ(พีวีซี) โดยเฉพาะตั้งแต่แรกติดตั้งหรือการซ่อมภายหลัง

แก้ปัญหาห้องน้ำรั่ว
ปัญหาห้องน้ำมีหลากหลายสาเหตุ บางทีเป็นปัญหาเดิม แต่คนละสาเหตุ เช่น ปัญหาห้องน้ำรั่วซึม

ที่มี
สาเหตุมาจากห้องน้ำใช้งานมาหลายปี จนปูนยาแนวไม่เหลืออยู่เลย (ดูวิธีแก้ไขในหัวข้อก่อนหน้านี้ได้)
แต่ถ้าปัญหา ห้องน้ำรั่วซึม ที่มีสาเหตุมาจาก ช่างปูกระเบื้องไว้มีแนวกระเบื้องที่ชิดกันมาก
จนไม่สามารถเทน้ำปูนลงไปได้ จะแก้ไขปัญหาอย่างไร
ขอแนะนำวิธีการง่าย ๆ สะดวก รวดเร็ว และประหยัด โดยการขูดปูนยาแนวเดิมออกให้หมดทุกซอกทุก
มุม แล้วใช้ปูนยาแนวใหม่ ยาแนวกระเบื้องให้หมดทุกซอกทุกมุม โดยอย่าให้เกิดรูมดน้ำซึมได้ แล้วปล่อย
ปูนยาแนวให้แห้งสนิท จึงค่อยใช้ห้องน้ำ วิธีการแบบนี้ก็พอจะช่วยแก้ปัญหาได้หลายปี จนกว่าปูนยาแนว
จะร่อน
ปัญหาห้องน้ำรั่วซึม ที่มีสาเหตุมาจากผู้รับเหมา

ผู้รับเหมา ได้เทพื้นห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมาเจาะพื้นห้องน้ำให้เป็นรูเพื่อต่อท่อต่าง ๆ เช่น
ท่อระบายน้ำทิ้ง ซึ่งอยู่บริเวณมุมของห้องน้ำและมีตะแกรงปิดอยู่ หรือ ท่อใต้ชักโครก เมื่อช่างเจาะแล้ว ก็
จะต่อท่อต่าง ๆ ขึ้นมา ก็จะเกิดช่องว่างระหว่างท่อกับพื้นห้องน้ำ ช่างส่วนใหญ่ก็จะเอาเศษวัสดุ หรือเศษ

กระดาษ มาอุดรอบ ๆ ท่อ แล้วจึงใช้ปูนซีเมนต์มาอุดรอบ ๆ ท่อ จึงทำให้เกิดรั่วซึมบริเวณรอบ ๆ ท่อได้


๑๙

วิธีการแก้ไข
1. เปิดฝ้าชั้นล่าง ดูตำแหน่งท่อจากชักโครก และท่อระบายน้ำทิ้งว่ามีรอยน้ำรั่วซึมตามท่อ
หรือไม่หรืออาจใช้กระดาษทิชชูพันรอบ ๆ ท่อ แล้วทิ้งไว้ และเราก็ใช้ห้องน้ำตามปกติ ดูว่ากระดาษทิชชู
เปียกหรือไม่ ถ้าเปียกแสดงว่าเกิดการรั่วซึมบริเวณรอบ ๆ ท่อ
2. รื้อหรือถอดชักโครกออกและรื้อกระเบื้องพื้นที่ปูรอบ ๆ ท่อออก
 ใช้หินเจียรอบ ๆ ท่อให้เป็นรูปท้องกระทะลึกลงไปด้านล่าง และใช้หินเจียตัดท่อที่อยู่
สูงกว่าก้นท้องกะทะออก และเก็บเศษท่อที่เหลือไว้
3. เอาเศษวัสดุ และกระดาษรอบ ๆ ท่อออก
 เจาะไม้อัดให้เป็นรู ให้ใหญ่กว่าท่อนิดหน่อยผ่าครึ่ง แล้วนำไปประกบท่อใต้พื้นห้องน้ำ
เพื่อป้องกันน้ำปูนรั่วลงฝ้าชั้นล่าง
4. เช็คระดับขอบท่อว่าต่ำกว่าระดับก้นกะทะเล็กน้อยหรือไม่ ถ้าต่ำกว่าแล้วให้นำเอาเศษ
ท่อที่ตัดออกจากข้อ 3 ทาน้ำมันพืชบริเวณผิวท่อด้านนอกแล้วมาครอบไว้เหมือนเดิม (เหมือนก่อนที่จะตัด)
แล้วผสมปูนซีเมนต์กับน้ำ และน้ำยากันซึมให้เหลวพอประมาณ เทรอบ ๆ ท่อ บริเวณที่เอาเศษวัสดุและ
กระดาษออก โดยเทให้สูงกว่าปากท่อที่ตัดออกและปล่อยน้ำปูนให้แห้งพอหมาด ๆ ใช้เกียงแต่งน้ำปูนให้
เป็นท้องกะทะเหมือนเดิม ทิ้งไว้จนแห้ง จึงเอาเศษท่อที่ครอบไว้ออก
5. ติดตั้งชักโครก หรือ ปูกระเบื้องพื้นห้องน้ำให้เหมือนเดิม แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย
การแก้ไขปัญหาห้องน้ำ รั่วซึมโดยมีสาเหตุจากพื้นห้องน้ำ เทคอนกรีตได้ไม่ดีมีเศษ
วัสดุ เศษไม้ หรือ อิฐหัก ผสมอยู่ด้วย จึงทำให้พื้นเกิดช่องว่าง ซึ่งเป็นสาเหตุให้น้ำซึมผ่านได้ และพูดถึง
วิธีการแก้ไขไปแล้ว ซึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ มีด้วยกัน 6 ขั้นตอน และเทคนิคที่นำไปใช้แก้ไขปัญหา คือ “น้ำ
ปูน”

ซึ่งต้องขอเรียนท่านผู้อ่านก่อนว่า การแก้ไขปัญหาพื้นห้องน้ำรั่วซึมโดยใช้ “น้ำปูน” นั้น ผู้เขียน
ได้จากประสบการณ์ในการแก้ไขจริงและค่อนข้างได้ผลและประหยัด ในครั้งนี้ก็จะพูดเกี่ยวกับปัญหา
ห้องน้ำอีกหลายสาเหตุและการแก้ไข ก็ยังคงใช้ “น้ำปูน” เหมือนเดิม เช่น

1.การเทพื้นห้องน้ำช่างหรือผู้รับเหมาไม่ได้ผสมน้ำยากันซึม ก็จะทำให้น้ำซึมผ่านห้องน้ำได้
2.ห้องน้ำที่ใช้งานมาหลายปี จนปูนยาแนวร่อนออกหมด น้ำก็สามารถซึมรั่วได้
3.กรณีที่เทพื้นคอนกรีตห้องน้ำแล้ว ผู้รับเหมาหรือ ช่าง มาทำการเจาะหรือสกัดพื้น เพื่อใส่ท่อน้ำ
ทิ้งหรือต่อท่อใต้ชักโครกแล้วใช้เศษวัสดุหรือปูดอัดรอบๆ ท่อก็ทำให้รั่วซึมได้เช่นกัน

 

๒๐

จากสาเหตุข้างต้น เฉพาะข้อ 1 และข้อ 2 เทคนิคและวิธีการแก้ไข สรุปโดยย่อ ๆ ดังนี้

การแก้ไข
1.ขูดปูนยาแนวกระเบื้องออกให้หมด
2.ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษวัสดุใต้กระเบื้องออกให้หมด
3.ผสมปูนซีเมนต์และน้ำยากันซึม คนให้เข้ากันเหลวพอประมาณ
4.เทน้ำปูนใส่ตามล่องกระเบื้องให้เต็มทุกแผ่น ทุกช่อง ทุกมุม
5.พอน้ำปูนหมาดๆ ใช้เกียงยางปาดน้ำปูนลึกเป็นล่องต่ำกว่ากระเบื้องเล็กน้อยเพื่อยาแนว
กระเบื้อง
6.ปล่อยให้แห้งสนิทแล้วใช้ปูนยาแนว ยาแนวให้หมดทุกพื้นที่แล้วปล่อยให้แห้ง จึงใช้ห้องน้ำ
ได้

 

เชิญชวนเข้าชมและอ่านบล็อคสำหรับแก้ไขงานประปาและสุขาภิบาล(เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความรู้ กงย.ชย.ทร.)หมวดงานประปาและสุขาภิบาล แผนกงานซ่อมสร้าง กงย.ชย.ทร.ได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆและประสบการณ์ของผู้ปฎิบัติงานมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ผู้สนใจที่เข้ามาชมในบล็อคนี้ หวังว่าคงจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย และขอเชิญชวนทุกท่านที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานประปาฯเข้าร่วมถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันอย่าเก็บความรู้ไว้กับตัวเอง เราจะร่วมพัฒนาหน่วยงานและเรียนรู้เทคนิคการจัดการความรู้ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนางานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

ผมกำลังปรับปรุงบ้านใหม่อยู่ครับ อยากทราบเรื่องการวางตำแหน่งงานระบบประปาสำหรับเครื่องซักผ้า ทั้งแบบฝาหน้าและแบบฝาบน เพื่อเตรียมข้อมูลไว้ก่อนไปพูดคุยกับผู้รับเหมาครับ รบกวนช่วยตอบด้วยนะครับ ถ้าเป็นไปได้ขอภาพประกอบด้วยก็ดีนะครับ
ขอบคุณครับ

 

 

 

๒๑

ตอบ..ช่าง อล.(สวัสดีครับ)
การเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนจะคล้ายๆ กัน คือ
1. ควรทำฐานสำหรับวางเครื่องซักผ้า สูงประมาณ10 เซนติเมตร ใช้โครงสร้างแยกอิสระออกจากพื้นลานซักล้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ขาของตัวเครื่องซักผ้าโดนน้ำบ่อยๆ ซึ่งจะทำให้ผุกร่อน อีกทั้งยังช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อีกด้วย
2. สำหรับท่อน้ำเข้า ใช้ท่อน้ำประปาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ½ นิ้ว เดินซ่อนหรือเดินลอยกับผนังบริเวณหลังเครื่องซักผ้าพร้อมติดตั้งก๊อกน้ำ ระดับความสูงไม่ควรสูงกว่าตัวเครื่องเพื่อความสวยงาม 60-90 เซนติเมตร สำหรับต่อสายอ่อนเข้าสู่ตัวเครื่องซักผ้า
3. สำหรับท่อน้ำทิ้ง ให้ทำช่องเป็นหลุมวางสายน้ำทิ้งเพื่อไม่ให้น้ำแยกเฉอะแฉะบริเวณพื้น โดยทำเป็นหลุมกว้างประมาณ 20 x 20 เซนติเมตร ลึกประมาณ 10- 20 เซนติเมตร พร้อมติดตั้งท่อระบายน้ำทิ้งที่พื้น (Floor Drain) จากนั้นก็เพียงแค่วางท่อน้ำทิ้งซึ่งเป็นท่ออ่อนลงไป อาจทำตะแกรงเปิด-ปิดเพื่อความเรียบร้อย
4. สำหรับปลั๊กไฟให้ติดตั้งอยู่ด้านหลังเครื่องคล้ายๆกับตำแหน่งของก๊อกน้ำ แต่ไม่ควรอยู่ใกล้กันเกินไป อาจติดอยู่คนละฝั่งกัน
5. สิ่งที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาดก็คือสายดิน อาจใช้ร่วมกับอุปกรณ์อย่างอื่นด้วยก็ได้ สำหรับวิธีการติดตั้งสายดินมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวกในแต่ละสภาพของการติดตั้ง ดังนั้นเราแค่เตือนให้ช่างอย่าลืมติดตั้งแท่งสายดินทิ้ง (Ground Rod) เผื่อเอาไว้ก็พอครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ท่อแตก น้ำรั่ว ปัญหางานประปาและสุขาภิบาล

ติดต่อ หมวดงานประปาและสุขาภิบาล กองงานโยธา กรมช่างโยธาทหารเรือ

เวลาราชการ ๐๒-๔๗๕๔๑๐๖

                         นอกเวลาราชการ ๐๘๗-๐๕๙๖๐๗๕(น.ต.นิพนธ์ ทองอ่อน)

 

 

 

 

 

view